ตามที่ซีอีโอของ อินสตาแกรม, อดัม มอสเซรี, the หัวข้อ จะไม่เน้นข่าวและการเมือง ไม่เหมือน Twitter ที่เป็นคู่แข่งหลัก
ในระหว่างการสนทนากับ Alex Heath จาก The Verge Mosseri ได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่านั่นไม่ใช่จุดสำคัญของแอปใหม่ ตามที่เขาพูด สิ่งนี้จะนำมาซึ่งปัญหาเพิ่มเติม เช่น ความเสี่ยงด้านลบและความสมบูรณ์ ซึ่งจะไม่คุ้มค่ากับกลยุทธ์ทางธุรกิจของบริษัท
ดูเพิ่มเติม
การแจ้งเตือน: พืชมีพิษนี้ทำให้ชายหนุ่มคนหนึ่งเสียชีวิตในโรงพยาบาล
Google พัฒนาเครื่องมือ AI เพื่อช่วยนักข่าวใน...
เขาชี้ให้เห็นว่า Instagram มีชุมชนเพียงพอแล้วและครอบคลุมด้านต่างๆ เช่น กีฬา ดนตรี แฟชั่น ความงาม และบันเทิง สร้างแพลตฟอร์มที่สมบูรณ์โดยไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับการเมืองหรือ ข่าว.
วิสัยทัศน์นี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่กว้างขึ้นของ เป้าหมายซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Instagram และ Facebook ที่จะออกห่างจากข่าวและการเมือง
เมื่อมองภาพรวม เธอลดจำนวนเนื้อหาทางการเมืองบน Facebook และลบคำว่า "News" (ข่าว) ออกจากชื่อฟีดของโซเชียลเน็ตเวิร์ก
นอกจากนี้ ยักษ์ใหญ่ยังได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับกฎหมายใหม่ของแคนาดาที่กำหนดให้พวกเขาต้องจ่าย สำหรับเนื้อหาข่าวท้องถิ่น โดยบอกว่าจะดึงข่าวจาก Facebook และ Instagram มาไว้บน ประเทศ.
ต่อมา เจ้านายของ Instagram ได้ชี้แจงคำตอบเบื้องต้นของเขา โดยกล่าวว่า Threads จะไม่ "ทำให้ท้อแท้หรือลดน้อยลง ความเกี่ยวข้องของข่าวหรือการเมือง” แต่จะไม่ “ติดตาม” ข่าวสารเหล่านั้นเหมือนอย่างที่ Facebook ทำ ในอดีตที่ผ่านมา.
Mosseri ยอมรับว่า Facebook อาจให้คำมั่นสัญญากับอุตสาหกรรมมากเกินไปในช่วงปี 2010 และการทำซ้ำอีกครั้งถือเป็นความผิดพลาด
แม้ว่า Threads จะมีผู้ใช้มากกว่า 70 ล้านคนแล้วตั้งแต่เปิดตัว แต่เครือข่ายนี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแทนที่ ทวิตเตอร์.
เป้าหมายของ Meta คือการสร้างพื้นที่สาธารณะสำหรับชุมชนบน Instagram ที่ไม่รู้สึกเหมือนอยู่บ้าน เครือข่ายโซเชียลนกสีฟ้าและสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสถานที่ที่ "โกรธ" น้อยลง เพื่อที่จะพูด.
ด้วยวิธีนี้ พวกเขาสามารถค้นหาแพลตฟอร์มที่ตอบสนองความต้องการสำหรับการโต้ตอบทางสังคมดิจิทัล แต่ไม่ต้องการ ละทิ้ง Twitter โดยสิ้นเชิงเนื่องจากแม้จะมีรูปแบบที่คล้ายกัน แต่ข้อเสนอของโซเชียลมีเดียทั้งสองก็คือ แตกต่าง.
ในทางกลับกัน เป็นที่ทราบกันดีว่าการเมืองและข่าวต่าง ๆ ต้องมาปรากฏในกระทู้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนักการเมืองและนักข่าวเริ่มใช้แพลตฟอร์มนี้โดยเฉพาะในช่วงเวลา การเลือกตั้ง
แต่ดูจากหน้าตาแล้ว Instagram จะไม่พยายามอย่างหนักที่จะเป็นเหมือน Twitter ในแผนกข่าว – ซึ่งอาจกลายเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มองหา “ที่หลบภัย” ดิจิทัล".