ระหว่างการแถลงข่าวที่จัดขึ้นในวันอังคารที่ 28 มกราคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข Luiz Henrique Mandetta ได้ยกระดับการเตือนภัยของ ไวรัสโคโรน่า สำหรับ "อันตรายใกล้ตัว".
การจำแนกเป็นระดับที่สองของสาม เปลี่ยนแปลงเนื่องจาก กรณีที่น่าสงสัยของ coronavirus ของผู้ป่วยใน Minas Geraisซึ่งเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน จนกระทั่งเมื่อวันศุกร์ที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา
ดูเพิ่มเติม
ผู้รับผลประโยชน์เมื่อสิ้นสุด NIS 7 จะได้รับ Bolsa Família สิ่งนี้...
กำไรของ FGTS ได้รับการตัดสินแล้วและจะถูกแจกจ่ายให้กับคนงาน...
ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน (COE) ซึ่งสอดคล้องกับองค์การอนามัยโลก (WHO) มีการเปิดใช้งานสามระดับ
คนแรกคือ ระดับการแจ้งเตือนเมื่อมีการระบุกรณีในประเทศอื่น เช่นเดียวกับการแพร่เชื้อส่วนใหญ่ในจีน ระดับที่สอง (อันตรายใกล้ตัว) มีลักษณะเฉพาะจากที่ตั้งของคดีที่ต้องสงสัย ซึ่งอยู่ในกรอบคำนิยามที่กำหนดโดยพิธีสาร ระดับสามกำหนดว่า ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขที่มีความสำคัญระดับชาตินี้เมื่อยืนยันกรณีของโรค
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข Luiz Henrique Mandetta อ้างว่าไม่มีข้อบ่งชี้ถึงการไหลเวียนของไวรัสโคโรนาในบราซิล แม้แต่ความสงสัยใน Minas Gerais ก็ยังถูกประเมิน
ผู้ป่วยแสดงอาการตามข้อสงสัย แต่อาการทั่วไปของเธอเป็นบวก ไม่มีข้อบ่งชี้ว่าไวรัสกำลังแพร่กระจาย แต่มีมาตรการป้องกันไว้ก่อน เธอถูกแยกเดี่ยวและผู้สัมผัสใกล้ชิด 14 คนอยู่ภายใต้การสังเกต รัฐมนตรีเน้นย้ำ
ตลอดการเดินทาง นักเตะชาวบราซิลเดินทางออกจากประเทศจีนและแวะพักสองครั้งก่อนจะถึงเบโลโอรีซอนตี (MG) หนึ่งแห่งในปารีส ประเทศฝรั่งเศส และอีกแห่งในกัวรุลฮอสในเซาเปาโล
Mandetta กล่าวว่าประเทศนี้มีทรัพยากรที่จำเป็นในการระบุจีโนมของไวรัส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงรายงานว่ามีการวิเคราะห์เจ็ดพันกรณี ในจำนวนนี้ 127 รายการได้รับการวิเคราะห์โดยละเอียด และมีเพียง 10 รายการเท่านั้นที่ได้รับแจ้งให้ทำการทดสอบ
ในบรรดาสิบ เก้าคนตกรอบ และมีเพียงชาวบราซิลจาก Minas Gerais เท่านั้นที่ถูกมองว่าน่าสงสัย แจ้งผลสอบให้ทราบหากไม่ม ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ กำหนดวางจำหน่ายในวันศุกร์หน้า 31 มกราคม
นอกเหนือจากมาตรการที่นำมาใช้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเตือนว่าชาวบราซิลควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปจีน “เราขอแนะนำให้เดินทางไปประเทศจีนในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น กระทรวงสาธารณสุขไม่แนะนำให้เดินทางไปประเทศดังกล่าวในเวลานี้”
*ข้อมูลจาก O Globo
อ่านด้วย: 6 โรคที่เกิดจากไวรัส